ไก่งวง อบสมุนไพร

เตรียมเครื่องสมุนไพรยัดใส้ไก่งวง

ตะใคร้ 5 ต้น ทุบแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ ละ ประมาณ 1 นิ้ว

ก้านเซลเลอรี่หั่นหยาบ ๆ ประมาณ 2 ถ้วย

กระเทียมสด 2 ช้อนโต๊ะ  

(กระเทียมต้องใช้ตวงค่ะ เพราะ กระเทียมที่นี่หัวใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ)

เนยสดหรือมาการีน ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หรือ 2 ออนซ์

เกลือป่น 1 ชต.

พริกไทยป่น 1 ชต.

อบเชยแท่ง ๆ ประมาณ 5 แท่ง ทุบพอแตก

(ถ้าใช้อบเชยป่นก็ใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ)

เครื่องเทศ 5 Spice หรือผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ

มะนาว 3 ลูก ปอกเปลือกผ่ากลาง แคะเมล็ดออก 

(ถ้ามี Lemon ลูกเหลืองขนาดกลาง 2 ลูก ผ่า 4 แทนได้ค่ะไม่ต้องปอกเปลือก)

หอมหัวใหญ่ ขนาดกลาง 2 ลูก ผ่า 4

–ตำกระเทียมพริกไทยเกลือ อบเชยให้เข้ากันพอแหลก ไม่ต้องละเอียด

ผสมเครื่องทั้งหมดแล้ว มะนาวบีบ ๆ เล็กน้อย ใส่มะนาวไปทั้งกากแบบนั้นด้วย ยัดใส้ไก่งวงให้เต็มค่ะ —

น้ำมันทาหนังไก่ (ใต้หนัง- ทาเยอะ ๆ)

เนย 4 ออนซ์ หรือมาการีน

กระเทียมสด 2 ชต.

เกลือ 3 ชต.

พริกไทย 2 ชต
ก็คือกระเทียมพริกไทยเกลือนี่แหละค่ะ ตำ ๆ แล้วทาให้ทั่วหนังไก่งวง รวมทั้งยัดเข้าไปใต้หนังไก่งวงด้วย หนังเขาจะมี 2 ชั้น เอามือหรือมีดแซะ ๆ เข้าไปนะคะ เหมือนล้วงเข้าไปในเสื้อนั่นแหละค่ะ เอาเนยใส่เข้าไปในหนังข้างในเลยเยอะ ๆ ข้างนอกตัวไก่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ อบไปซักพักเขาจะมีการแต่งตัวด้วย Baste ที่หนังค่ะ
เย็บหรือจัดตัวไก่ ปีกไก่ให้สวยงาม ด้วยการเย็บช่องที่เปิดไว้ และจัดปีกให้ท่าสวย ตัวนี้ปีกใหญ่มาก ๆ บิดปีกไม่ลงค่ะ เลยเอาเชือกผูกไว้ให้ท่าสวย
เปิดเตาอบที่ 375 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ 175 องศาเซนติเกรด

การเช็คดูว่าไก่งวงสุกหรือยังมี 2 วิธีนะคะ 

1 นำเทอโมมิเตอร์ เช็คความร้อนส่วนเนื้อไก่ส่วนลึก ใกล้กระดูก เทอร์โมมิเตอร์จะบอกว่า 160 องศาฟาร์เรนไฮ ก็เป็นอันว่าใช้ได้แล้ว

2 ไก่งวงบางตัวเขาจะมีปอปอัพบอกว่าสุกแล้วติดตัวมาค่ะ ถ้าสุกแล้วตัวพลาสติกข้างในจะเด้งออกมา หรือบางครอบครัวก็หาซื้ออุปกรณ์ที่ว่ามา ป๊อบอัพเองค่ะ
  

เปิดไฟ Broil หรือไฟบนน่ะค่ะ ไฟแรง 3-5 นาที ได้ไก่งวงหนังกรอบแล้วค่ะ เสร็จแล้วค่ะ ปิด

เตา รอพักไว้ 30 นาที จึงนำมาตัดรับประทานได้

 

เคล็ดลับอยู่ที่ อย่าอบเนื้อสัตว์ให้สุกนานเกินควร (จำคำแนะนำที่เชฟใหญ่ ๆ ทางทีวีเขาบอก มาพูดอ่ะ) ถ้าตำราบอกว่าเนื้อสัตว์วัดองศาสุกที่ 180 องศาซี ให้ หยุดการอบไฟที่ 160-170 องศา เพราะระหว่างรอการตัดหรือเสริฟเนื้อสัตว์จะสุกเองช้า ๆ ผู้นำไปใช้โปรดใช้วิจารณญาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

ดูเพิ่มเติมที่นี่  ใhttp://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nah-nok&month=22-11-2007&group=6&gblog=3

Recommended Articles